สรุปการศึกษาดูงานองค์กรส่งเสริมคุณธรรมต้นแบบภาคตะวันออก
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562 คณะทำงานโครงการส่งเสริมองค์กรสุขภาวะภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กรคุณธรรม จากศูนย์คุณธรรมและมูลนิธิหัวใจอาสา จัดกิจกรรมศึกษาดูงานองค์กรต้นแบบด้านการส่งเสริมคุณธรรมองค์กร ในพื้นที่เขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ซึ่งในครั้งนี้คณะทำงานได้คัดเลือกองค์กรต้นแบบที่มีกิจกรรมการส่งเสริมคุณธรรมจริยที่น่าสนใจ จำนวน 2 องค์กร ประกอบด้วย บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด จ.ชลบุรี และ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) จ.สมุทรปราการ โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้จำนวน 40 คน จาก 15 องค์กร
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทมุ่งสู่การเป็นองค์กรคนดี (Humanize Organization) โดยได้ทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุความไม่ยั่งยืนของ องค์กรธุรกิจจากสถานการณ์ต่างๆ เช่น วิกฤติเศรษฐกิจการเงิน วิกฤติต้มย ากุ้ง ซึ่งล้วนเกิดจากความประมาท ความ โลภ ความไร้คุณธรรม ของมนุษย์ทั้งสิ้น ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่าแก่นแท้ความยั่งยืนของบริษัทที่มีอายุยาวนานถึง 1,400 ปี นั้นเกิดจากการดำเนินธุรกิจด้วยคุณธรรม
ดังนั้น บริษัทจึงได้ดำเนินยุทธศาสตร์สร้างองค์กรคนดี และได้กำหนดเป้าหมายคือ “เติบโต ยั่งยืน เป็นสุข” โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของค่านิยมองค์กรคือ “เป็นองค์กรธุรกิจคู่คุณธรรม” และมีวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาควบคู่กับการ แข่งขัน เป็นผู้นำการผลิตสินค้าในเอเชียอย่างมีคุณธรรม มีวัฒนธรรมองค์กร คือ “การยกย่องคนดี ส่งเสริมคน เก่ง”
นิยามคนดีในที่นี้คือ “ต้องเป็นคนที่คิดดี พูดดี ทำดี” และคนเก่ง คือ “ต้องเป็นมืออาชีพ” ทั้งนี้มีพันธสัญญาคือ “นำความดีมาสู่สังคม สร้างสุขภาวะที่ดีสู่ผู้บริโภค” โดยดำเนินการใน 4 ส่วนคือ พนักงาน ผู้บริโภค สังคม และ สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้พนักงานได้แบ่งกลุ่มคณะทำงานตามความสมัครใจเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม กลุ่มพระโพธิสัตว์ กลุ่มHappy 8 และกลุ่มชุมชนคนดี โดยบริษัทเอื้อให้เกิดการสร้างองค์กรคุณธรรมใน 4 ส่วนคือ
1) สร้างบรรยากาศ ให้เอื้อต่อการทำดีมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
– การตักบาตรบริเวณลานธรรม ใส่บาตรทุกวันจันทร์ (กทม.) ทุกวันศุกร์ (ชลบุรี)
– การติดป้ายคุณธรรมที่ต้นไม้รอบบริษัท “ต้นไม้พูดได้”
– กิจกรรมพักใจ 5 นาที ก่อนทำงานในช่วงบ่าย โดยการนั่งสมาธิและใช้ระฆังเรียกสติแก่ พนักงานในสายพานการผลิต
– กิจกรรมโรงอาหารปลอดสารพิษ โดยส่งเสริมให้พนักงานกินข้าวกล้องในช่วงกลางวัน ซึ่งมี การเขียนป้ายคุณสมบัติของข้าวกล้องที่ท าให้พนักงานเห็นประโยชน์ของการกินข้าวนี้
– กิจกรรมกินผักผลไม้ 400 กรัมต่อวัน โดยมีนักโภชนาการมาแนะนำการกินอาหารที่ถูกหลัก โภชนาการและปลอดภัย
– การทำบันไดเพื่อสุขภาพ โดยติดป้ายส่งเสริมการเดินขึ้นลงบันไดเพื่อลดแคลรอรี่ ทำให้ พนักงานมีสุขภาพที่ดี ช่วยแก้ปัญหาข้อเข่า โรคหัวใจ และหอบหืดได้
– กิจกรรม Fit & Firm โดยมีการออกกำลังกายเป็นประจำทุกหลังเวลาเลิกงาน ตามความสนใจ ของพนักงาน เช่น เต้น โยคะ เปตอง ฟุตบอล ตะกร้อ เป็นต้น และมีบัดดี้/กลุ่มคอยช่วยดูแล ควบคุมให้เป็นไปตามแผนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
2) สร้างโอกาส ให้พนักงานและชุมชนได้มีโอกาสทำสิ่งดีๆ เช่น
– กิจกรรมไลอ้อนจิตอาสา โดยสร้างโอกาสให้พนักงานไปทำกิจกรรมจิตอาสาต่างๆ เช่น กวาด วัด ดูแลชุมชน ทั้งนี้สามารถไปทำกิจกรรมในเวลางานได้โดยไม่ถือเป็นวันลา
– การขี่จักรยานจิตอาสาช่วยชุมชน โดยหลังจากการทำกิจกรรมจะมีการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ ร่วมกัน
– กิจกรรมอุปสมบทหมู่ โดยให้พนักงานไปบวชได้ 1 เดือนไม่ถือเป็นวันลาและหากใครต้องการลาต่ออีก 3 เดือนก็สามารถทำได้ตามสิทธิของพนักงาน ผลจากการทำนี้ ส่งผลให้พนักงาน เปลี่ยนเป็นคนใหม่ คนที่ไปบวชสามารถเลิกเหล้าได้ ทำให้ครอบครัวมีความสุขมากขึ้น
– กิจกรรมแปลงผักอินทรีย์เพื่อสุขภาพ (Organic farm) เช่น เมลอน ข้าวโพด มะเขือ มะเขือ เทศ บวบ เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานและชุมชนรายได้ได้เห็น กิจกรรมดีๆ และท าสิ่งดีๆ ทั้งนี้ได้เชิญปราชญ์ชุมชนในพื้นที่มาสอน ให้ความรู้เรื่องการปลูก ผัก และได้เชิญชาวบ้านในชุมชนมาร่วมเรียนรู้ด้วย
– มีการส่งเสริมการปลูกผักที่วัด ทำให้พระสงฆ์ ชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียงได้กินผัก ปลอดสารพิษ นอกจากนี้ยังมีโครงการตรวจสุขภาพพระสงฆ์อีกด้วย
– กิจกรรมเตรียมพร้อมคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยให้ความรู้เรื่องการเป็นพ่อแม่ มีห้องปั้มนมแม่ และ มีห้องอภิบาลดูแลเด็กเล็กในเวลาหลังเลิกเรียน (ซึ่งเป็นลูกๆ ของพนักงานที่ต้องมารอพ่อแม่ ก่อนเลิกงาน)
– กิจกรรมของกลุ่มพระโพธิสัตว์ โดยนำของใช้ของพนักงานมาขายเพื่อหารายได้เข้ากองทุน ซึ่งปัจจุบันมีเงินกว่าหนึ่งล้านบาท /กิจกรรมขยะทองคำ/การบริจาคเลือด
– โครงการฟื้นฟูชีวิตคู่ โดยให้พนักงานที่แต่งงานเกิน 5 ปี เข้าร่วมโครงการ ไปทำกิจกรรม ด้วยกันทำให้พนักงานมีความสัมพันธ์ที่ดี ครอบครัวอบอุ่น ส่งผลให้การทำงานมีความสุข
– กิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้บุตรพนักงาน และให้ทุนการศึกษาสำหรับบุตรพนักงานที่ เสียชีวิต
3) สร้างต้นแบบ มีการประกาศนโยบายเป็นองค์กรที่ต่อต้านการคอร์รัปชั่น ใช้นโยบาย No Gift Policy โดยให้ทุกคนในบริษัทลงนามในบันทึกข้อตกลง /มีการดูแลรับผิดชอบต่อผู้บริโภคโดยพยายามหา นวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อดูแลใส่ใจต่อสุขภาพของผู้บริโภค เช่น ผงซักฟอกเปาซิลเวอร์นาโน ซึ่งนำงานวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาต่อยอด ทำให้ซักผ้ากลางคืนแล้วผ้าไม่อับชื้น, การนำ สมุนไพร ท้องถิ่นจากธรรมชาติ เช่น ตรีพลา มาเป็นส่วนผสมในยาสีฟัน, น้ำยาล้างจานไลปอนเอฟ ได้นำน้ำมัน ปาล์มมาเป็นส่วนผสม แป้งโคโดโมะ ได้พัฒนาให้เนื้อแป้งไม่ฟุ้งกระจายเข้าจมูก เป็นต้น/ มีการพิมพ์ อักษรเบลล์ติดที่สลากผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้พิการทางสายตาอ่านได้ นอกจากนี้ยังมีการผลิตยาสีฟันยี่ห้อ ซื่อสัตย์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ย้ำเตือนให้คนมีหลักคุณธรรม โดยเน้นให้คนมีคุณธรรมความซื่อสัตย์อยู่คู่กับสังคม และให้เป็นสินค้าที่สามารถปรับเปลี่ยนจิตใจคนได้
4) ค้นหาคำตอบของชีวิต มีกิจกรรมให้พนักงานไปศึกษาเรียนรู้ พูดคุยกับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โดยตั้ง คำถามกับผู้ป่วยว่า “หากย้อนเวลากลับไปได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่อยากทำในชีวิตท่านจะทำอะไร” ซึ่งได้คำตอบส่วน ใหญ่ว่า “อยากดูแลครอบครัวให้ดี และมีเพื่อนที่ดี” จากกิจกรรมนี้ ทำให้บริษัทได้ทำเพลงที่เป็นอัตลักษณ์ร่วมขององค์กร ชื่อว่า “คำตอบของชีวิต” โดยให้พนักงานแสดงประกอบเพลงและเปิด รณรงค์ให้พนักงานฟังในทุกเช้าก่อนเข้างาน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้พนักงานได้ค่อยๆ ซึมซับหลักคิด ต่างๆ เข้าสู่จิตใจของทุกคน
บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด “ถือได้ว่าเป็นการสร้างองค์กรแห่งคนดี” อย่างแท้จริง องค์กรที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่มีความสุขจากภายใน และดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเจน สิ่งที่เป็นกุญแจที่ทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างเช่นทุกวันนี้ ประการสำคัญอันดับแรกคือ ผู้บริหารที่มีเป็นวิสัยทัศน์และมีความตั้งใจที่ต้องการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรคุณธรรมคู่สังคมและพัฒนาบุคลากรให้เป็นคนดีขององค์กรและของสังคม ซึ่งผู้บริหารได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการให้คุณค่าตนเองแก่พนักงาน และมีกระบวนการออกแบบกิจกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร โดยมีเป้าหมายคือการสร้างคนดีสู่สังคม
บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)
ช่วงบ่ายของวันที่ 8 มีนาคม 2562 คณะทำงานโครงการส่งเสริมองค์กรสุขภาวะภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กรคุณธรรม จากศูนย์คุณธรรมและมูลนิธิหัวใจอาสา ได้นำคณะเข้าศึกษาดูงานแนวการดำเนินธุรกิจที่ส่งเสริมคุณธรรมของ บริษัท สมบูรณ์แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) อำเภอบางโฉลง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นองค์กรที่เติบโตมาจากธุรกิจครอบครัวเล็กๆ จนขยายเป็นบริษัทมหาชน ที่ผลิตอะไหล่รถยนต์ส่งออก ปัจจุบันมีพนักงานรวมกันกว่า 2,500 คน มีพื้นที่ในบริษัท 112 ไร่ จากอดีตที่บริษัทฝังกลบขยะจากโรงงานบริเวณพื้นที่ ของโรงงานเอง โดยคิดว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่จากปัญหาน้ำท่วมทำให้เกิดคราบคล้ายน้ำมันลอยขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ชุมชนรายรอบต่างมุ่งเป้าว่าปัญหานี้เกิดจากการกระทำของบริษัทสมบูรณ์ ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้บริหารปรับแนวทางการทำงานใหม่ โดยใช้หลักคุณธรรมในการขับเคลื่อน คือ “พอเพียง วินัย ซื่อสัตย์ จิตอาสา รู้หน้าที่” และมีวิสัยทัศน์ขององค์กรคือ “สร้างการเติบโตในวิถียานยนต์พร้อมกับสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ” การส่งเสริมคุณธรรมตามวิถีคนสมบูรณ์ใช้หลักคิด “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ผ่านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผู้บริหารเห็นความสำคัญว่า เมื่อคิดอะไรแล้วให้ลงมือทำเลยจึงได้เริ่มต้นทำองค์กรธุรกิจคุณธรรม โดยกล่าวว่า “หากบริษัทสมบูรณ์ทำธุรกิจอย่างไม่มีคุณธรรมจะไม่มีสมบูรณ์ในทุกวันนี้ หากองค์กรใดทำเรื่องคุณธรรมด้วยความเข้าใจและมีความพร้อมจะเป็นองค์กรที่เกิดความยั่งยืนและช่วยเหลือสังคมได้ ทั้งนี้หากทำอะไรด้วยใจ ก็จะได้ใจกลับมา”
บริษัทมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่คนก่อน โดยมีคุณธรรมเป้าหมายคือ “กตัญญู ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน” และเห็นว่าการทำธุรกิจต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสร้างบ่อบำบัด และพลิกฟื้นผืนดินให้กลายเป็น พื้นที่สีเขียว หันมาสร้างศูนย์เรียนรู้สวนสมบูรณ์ โดยให้พนักงานช่วยกันปลูกต้นไม้ และดูแลจนโต ทำให้ระบบ นิเวศน์ที่ดีกลับคืนมา และมองว่าการทำตามลำพังองค์กรเดียว ไม่เกิดพลัง จึงได้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายภาคธุรกิจทำให้ จนสามารถสร้างพลังได้ นอกจากนี้ได้หันมาช่วยดูแลชุมชน โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น โครงการคลองสวยน้ำใส ทุกวันนี้บริษัทเป็นโรงงานสีขาวแห่งแรกของจังหวัดสมุทรปราการ มุ่งพัฒนาให้พนักงานเป็นคนดี ซึ่งจะเป็นฐานรากที่เข้มแข็งให้แก่โรงงานได้ มีการพัฒนาด้วยแนวคิด ๓ ส. ได้แก่ 1) ฅนสมบูรณ์ คือ การเป็นคนเก่งและดี โดยใช้ความเก่งของตัวเองเพื่อไปทำประโยชน์ ทำความดีเพื่อ ผู้อื่น มีกิจกรรมที่สำคัญ คือ
– กิจกรรมส่งเสริมพนักงาน เช่น ใส่บาตรทุกวันพระต้นเดือน
– กิจกรรมชมรมวิปัสนาพัฒนาจิตใจ โดยทำทุกๆ 3 เดือน เพื่อให้คนทำดีและมีจิตอาสา
– กิจกรรมอุปสมบทหมู่ โดยให้บวชได้ 9 วัน และให้ลาบวชได้ 45 วัน
– กิจกรรมพาครอบครัวของพนักงานไปดูหนังเพื่อสร้างสัมพันธ์ครอบครัว
– กิจกรรมเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณ เมื่ออายุ 55 ปี โดยบริษัทจัดให้พนักงานเข้าร่วม โครงการก่อนเกษียณ 3 ปี โดยจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญและรุ่นพี่ที่เคยเป็นอดีตพนักงานมาให้ ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพหลังเกษียณ การให้ความรู้เรื่องการออมและการทำแผนชีวิต อนาคต เพื่อให้พนักงานมีความมั่นคงและไม่รู้สึกเหงาในช่วงวัยเกษียณ
– กิจกรรมพัฒนาทักษะและศักยภาพของพนักงานตามความสนใจ ทำให้เกิดชมรมต่างๆ หลายชมรมเช่น ชมรมพระเครื่อง ชมรมถ่ายภาพ ชมรมตะกร้อ ชมรมเกษตร ชมรมฟุตบอล เป็นต้น โดยให้ทุกชมรมมี 1 กิจกรรมความดี และบริษัทได้สนับสนุนงบประมาณให้พนักงาน ในการทำกิจกรรมด้วย
2) ธุรกิจสมบูรณ์ คือ การสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นการสร้างประโยชน์ตอบโจทย์ผู้ร่วมทุน ทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและมีความเป็นมืออาชีพ
3) ชุมชนสมบูรณ์ คือ การมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าเพิ่มให้ชุมชนรอบข้าง และประเทศชาติ ห่วงใยชุมชน พัฒนาและสร้างอาชีพให้ชุมชน ซึ่งมีกิจกรรมหลายอย่างเช่น
– กิจกรรมศูนย์เรียนรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้พนักงานประจำที่เป็นคนพิการมาดูแลศูนย์ฯ และพนักงานจิตอาสามาช่วยปลูกข้าว ปลูกผัก ปลูกกล้วย เลี้ยงไก่ เป็นต้น และนำเงินรายได้จากการ ขายพืชผลนี้มาใช้จ่ายในศูนย์ฯ ต่อไป
– กิจกรรมการบริจาคโลหิต /กิจกรรมค่ายอาสา เช่น การสร้างบ้านให้ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ โดยร่วมกับอบต.เพื่อค้นหาบ้านที่มีความต้องการ และมีกิจกรรมค่ายชมรมสมบูรณ์กรุ๊ปอาสา เป็นต้น
– โครงการรักบ้านเกิด โดยให้พนักงานเสนอโครงการต่างๆ เพื่อไปพัฒนาบ้านเกิด และโรงเรียน บ้านเกิดของตนเองได้ โดยทำงานจิตอาสาในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
– มีกิจกรรมเยี่ยมชุมชนเพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชน
– กิจกรรมให้ทุนบุตรพนักงานที่เรียนดี และให้ทุนเด็กดีมีคุณธรรมในชุมชน ทุนละ 3,000 บาท (ทั้งนี้ได้บริจาคทุนต่อเนื่องมาแล้ว 20 ปีๆ ละ 600,000 บาท)
– โครงการสหกิจศึกษา โดยให้โอกาสแก่นักศึกษาในสถาบันต่างๆ มาฝึกงาน และนำเสนอ project ของตนเองก่อนจบการฝึกงาน
– ร่วมกิจกรรมสนับสนุนงานประเพณีชุมชนใน จ.สมุทรปราการ เช่น การแห่เจว็ด เป็นต้น
– โครงการจ้างงานผู้พิการ ให้มาทำสวนในศูนย์เรียนรู้ และร่วมกับอบต.เพื่อยกระดับคุณภาพ ชีวิตคนพิการ ทำให้ผู้พิการเห็นคุณค่าในตัวเอง เลี้ยงครอบครัวได้ และมีกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้ พิการทำงานที่ชุมชนโดยบริษัทเป็นผู้จ้างงานและโอนเงินเข้าบัญชีผู้พิการโดยตรง
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงกิจกรรมบางส่วนที่หยิบยกมาเล่าจากการได้รับโอกาสไปร่วมดูงานขององค์กรแห่งนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่น่าสนใจในด้านการพัฒนาคนให้เป็นคนดีและคนเก่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสังคมไทยในปัจจุบันอย่างมาก หากจะเปรียบไปแล้ว การพัฒนาคนก็เหมือนกับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ไม่ว่าเหล็กกล้าจะมาจากแหล่งไหน มีรูปร่างเป็นอย่างไรก็ตาม เมื่อต้องนำไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ก็ต้องผ่านกระบวนการหลอมที่ต้องใช้พลังงานความร้อนสูง ขึ้นรูปตามแบบที่ได้กำหนดไว้ เมื่อได้ตามแบบที่ต้องการแล้วก็ต้องผ่านกระบวนการตกแต่งให้สวยงาม และตรวจสอบตามมาตรฐานคุณภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้ามีคุณภาพครบถ้วนตามที่ต้องการก่อนส่งออกไปสู่มือลูกค้า ลูกค้าเองก็ย่อมพึงพอใจเมื่อได้รับของดีมีคุณภาพ เช่นเดียวกัน คนของสมบูรณ์กรุ๊ปก็ต้องผ่านกระบวนการหล่อหลอม อบรม บ่มเพาะพัฒนา จนกลายเป็นคนดีและคนเก่งตามเป้าหมายขององค์กร คือ ฅนสมบูรณ์ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจ ให้กลายเป็นธุรกิจสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ทั้งสองส่วนนี้ได้ส่งต่อสู่ชุมชน ในรูปแบบของการช่วยเหลือ แบ่งปัน ส่งเสริมชุมชนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โครงการสหกิจศึกษา (โรงเรียนในโรงงาน) การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส การจ้างงานผู้พิการ รวมทั้งการสืบสานประเพณีท้องถิ่น เช่น ประเพณีรับบัว พิธีไหว้ศาลและการบูชาบวงสรวงศาล เป็นต้น จนกลายเป็นชุมชนสมบูรณ์ เป็นไปตามหลักการ “3 สมบุรณ์ สร้างสมดุล” นั่นเอง
สิทธิพร กล้าแข็ง มูลนิธิหัวใจอาสา
จีระวรรณ์ บรรเทาทุกข์ ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)