web analytics

บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จํากัด (มหาชน)

“ความรักความไว้ใจ คือสายใยหลอมรวมคนในองค์กร”

 

 

รู้จัก บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จํากัด (มหาชน)

บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จํากัด (มหาชน) เป็นบริษัทในเครือไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป ดําเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอาหารทะเลแปรรูป ส่งออกผลิตภัณฑ์ทูน่า ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์บรรจุกระป๋องรายใหญ่รายหนึ่งของประเทศ  มีโรงงานตั้งอยู่ที่ 333 หมู่ 2 ถนนกาญจนวนิช ตําบลพะวง อําเภอเมือง จังหวัดสงขลา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2524 ด้วยทุนจดทะเบียน 360 ล้านบาท มีเป้าหมายผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานในระดับสากลเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก

เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และเอเชีย บริษัทฯ จึงต้องใช้เทคโนโลยี ที่ทันสมัย และได้มาตรฐานระดับสากล ควบคู่กับการส่งเสริมให้พนักงานทํางานอย่างมีความสุข เพราะตระหนักดีว่าทรัพยากรบุคคลนั้นมีความสําคัญอย่างที่ไม่สามารถมีเครื่องจักรใดๆ มาทดแทนได้ โดยเฉพาะงานที่สงขลา แคนนิ่ง มีบางส่วนงานที่ต้องใช้ความละเอียดและต้องการคุณภาพสูง จึงจําเป็นต้องใช้คนจํานวนมากเพื่อขับเคลื่อน ให้องค์กรสามารถเดินหน้าไปสู่การเป็นครัวของโลก ธุรกิจของสงขลาแคนนิ่งนี้
ยังได้รับการรับรองระดับมาตรฐาน สากลมากมาย อาทิ ISO9001 / FDA / CFIA  / HACCP / GMP /  อย. / ฮาลาล / ISO/IEC 17025 เป็นต้น  ปัจจุบันสงขลาแคนนิ่ง มีจํานวนพนักงานมากกว่า 5,000 คน เป็นพนักงานสัญชาติไทย 69%  ที่เหลือเป็นพนักงาน สัญชาติพม่า และพนักงานสัญชาติกัมพูชา บริษัทฯ ได้ดําเนินการให้พนักงานต่างชาติทุกคน เป็นพนักงานที่ถูกตามกฎหมายทั้งหมด ไม่ว่าจะเคยลักลอบเข้ามาหรือเป็นพนักงานที่สรรหาด้วยการนําเข้าพนักงานต่างชาติตาม MOU เพราะถือว่าทุกคนเป็นกําลังสําคัญของบริษัท และเพื่อให้
ทุกคนได้รับสิทธิต่างๆ ไม่แตกต่างจากพนักงานคนไทย

แนวทางการบริหารองค์กร

บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จํากัด (มหาชน) ได้ดำเนินนโยบายในการดูแลคุณภาพชีวิตพนักงานทุกอย่าง
เท่าเทียมกัน แม้ว่าจะมีประเพณี วัฒนธรรม หรือเชื้อชาติที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนก็อยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน มีความเสมอภาคกัน พนักงานทุกคนเปรียบเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน สร้างบรรยากาศการทำงานอยู่ร่วมกันอย่างเป็นครอบครัว  เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดและในการทํากิจกรรมต่างๆ เป็นซึ่งเป็นค่านิยมร่วมขององค์กร 6 ประการ ที่บริษัทกําหนดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุตามพันธกิจ และวิสัยทัศน์ขององค์กร แบ่งค่านิยมออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ค่านิยมในด้านทัศนคติ และค่านิยมในด้านการปฏิบัติ

ประการแรก คือค่านิยมในด้านทัศนคติ (Value of Attitude) เป็นค่านิยมที่แสดงถึงทัศนคติต่อการทํางาน ต่อความรู้ และต่อผู้อื่น ซึ่งประกอบด้วย

  • ความมุ่งมั่น (Passionate) มีความทะเยอทะยานที่จะเติบโต มีจิตวิญญานของผู้ชนะและ แสวงหาความเป็นเลิศ/มุ่งสู่ความเป็นผู้เชี่ยวชาญ
  • ความอ่อนน้อม (Humble) เชื่อมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ยกตนเหนือผู้อื่น โดยฟัง อย่างใส่ใจและตั้งใจ
  • การให้เกียรติผู้อื่น (Respectful) ปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ตนต้องการได้รับ เปิดใจรับ ในความแตกต่างและความหลากหลาย ตระหนักในคุณค่าของความคิดเห็นและเวลาของผู้อื่น

ประการที่สอง ค่านิยมในด้านการปฏิบัติ (Value of Action) เป็นค่านิยมเพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ และเพื่อยกระดับการทํางาน ซึ่งประกอบด้วย

  • ความรับผิดชอบ (Responsible) มีจิตสํานึกรับผิดชอบ ทําคํามั่นสัญญาให้สําเร็จผล คํานึงถึงบริบทในระยะยาว
  • การให้ความร่วมมือ (Collaborative) กําหนดเป้าหมายร่วมของทุกคนในทีม ผสานทักษะ ที่หลากหลายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ส่งเสริมและชื่นชมการมีส่วนร่วมของคนในทีม
  • การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ (Innovation) มีความสงสัยใฝ่รู้อยู่เสมอ พร้อมที่จะทดสอบแนวคิด ใหม่และนําไปปฏิบัติ และคิดนอกกรอบ

ด้วยค่านิยมและนโยบายในการบริหารดังกล่าว ได้หล่อหลอมกลายมาเป็นวัฒนธรรมที่เข้มแข้งขององค์กร ภายใต้สโลแกน “งานได้ผล คนเป็นสุข”  โดยมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้พนักงานทุกเชื้อชาติ ศาสนา ที่มาอยู่ร่วมกัน ได้ทำงานอย่างมีความสุข และให้เกิดความรู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้านของทุกคน ในบ้านหลังนี้ทุกคนคือญาติพี่น้องกัน

 

กระบวนการดำเนินงานขององค์กร

สำหรับกระบวนการนำเนินงานส่งเสริมคุณภาพชีวิตพนักงานขององค์กรแห่งนี้ได้ใช้แนวทางของ Happy 8 เป็นแนวทางหลัก และมีรูปแบบการทำกิจกรรมที่หลายหลาย ทั้งนี้เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานทุกลุ่ม โดยมีการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบให้พนักงานทุกแผนกเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการตามความถนัด มีการเปิดพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงความสามารถผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้พบกลุ่มบุคคลที่มีความสามรถแตกต่างกัน และมีจิตอาสาที่จะเข้ามาทำงานเสียสละเพื่อองค์กร โดยบริษัทมีช่องทางในการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมคือ ระบบเสียงตามสาย ที่มีผู้รับผิดชอบเป็นดีเจจัดรายการทุกเช้าสลับกันไปแต่ละเชื้อชาติ ศาสนา เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาค รวมทั้งประชาสัมพันธ์กิจกรรมอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในวาระต่างๆ ของบริษัท

ดังที่กล่าวแล้วว่าองค์กรแห่งนี้ได้จัดกิจกรรมหลายอย่างเพื่อพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตพนักงาน รวมทั้งการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการให้ การแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ที่ด้อยกว่า หรือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ เป็นสิ่งหนึ่งที่องค์กรส่งเสริมมาอย่างต่อเนื่อง โดยผ่านกิจกรรมในรูปแบบของต่าง ๆ เช่น การบริจาคโลหิต ทุก 3 เดือน  ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม  โครงการก้าวคนละก้าว การจัดดนตรีเปิดหมวก บริจาคช่วยเหลือวงดนตรีคนตาบอด  มอบเงินเพื่อนพนักงานด้วยกันที่ประสบความเดือดร้อนหรือเกิดวิกฤติกับชีวิต มอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับหน่วยงานต่างๆ  ช่วยเหลือโรงเรียนขาดแคลน สนับสนุนช่องทางการจําหน่ายให้กับ SME ชุมชนชมรมจิตอาสา   ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ  ทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เป็นต้น

นอกจากกิจกรรมที่เป็นเรื่องจิตอาสาแล้ว องค์กรได้จัดกิจกรรมที่พัฒนาด้านจิตวิญญาณของพนักงานด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรมทางศาสนา โดยเฉพาะในวันสําคัญทางศาสนาต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมแสดงออกถึงความรัก ความศรัทธา และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย การทําบุญขึ้นปีใหม่ ศาสนาพุทธ-อิสลาม ร่วมน้อมรําลึก ส่งเสด็จ (ในหลวง ร.9) สู่สวรรคาลัย  ทอดกฐินวัดน้ำกระจาย เวียนเทียนวันสําคัญทางพุทธศาสนา  ถวายเทียน 9 วัด รวมทั้งประเพณีปฏิบัติของศาสนาอิสลาม

ไม่เพียงแค่นั้น องค์กรแห่งนี้ยังได้ส่งเสริมให้พนักงานดำเนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้รู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักความพอเพียง  จึงได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านบริหารจัดการทางการเงิน โดยได้รับความร่วมมือองค์กรภายนอกเข้ามาร่วมให้ความรู้เรื่องการออมเงิน และมีกิจกรรมส่งเสริมการสร้างรายได้ เพิ่มเติม ได้แก่ ฝึกอาชีพระยะสั้น  ส่งเสริมการออมเงิน  ปลูกผักสวนครัวรั้วสะอาด โครการเปลี่ยนเงินกู้นอกระบบมาเป็นเงินกู้ในระบบ  โครงการต้นกล้าอาชีพ เป็นต้น

 

ผลลัพธ์การดำเนินงาน

ผลจากการดำเนินโครงการต่าง ๆ พบว่าพนักงานมีคุณภาพชีวิตดีขั้น มีความสุขในการทํางานมากขึ้นโดยดูจากสถิติการ Turn over ที่ลดต่ำลง เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดี พนักงานรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในบ้านหลังใหญ่ เนื่องจากได้รับการเอาใจใส่ ดูแล โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพร่างกายสุขภาพจิต รวมทั้งได้รับความห่วงใยจากผู้บริหารและหัวหน้างาน เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเพื่อนร่วมงาน

เมื่อบรรยากาศในการทำงาน มีความรัก มีความอบอุ่น มีสัมพันธภาพที่ดี มีความเอื้อเผื่อแบ่งปันกัน ย่อมส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานเช่นกัน เมื่อพนักงานทำงานด้วยความสุข ด้วยความเข้าใจ ผลผลิตก็ย่อมออกมาดีอย่างแน่นอน บริษัทก็สามรถทำกำไรได้มากขึ้น โบนัสก็เพิ่มขึ้น อัตราการลาออกของพนักงานก็ลดลง  ความรรัก ความผูกพันที่มีต่อผู้บริหารและองค์กรก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เป็นผลกระทบเชื่อมโยงกันไปในทิศทางบวก และนี่คือความมั่นคงทางธุรกิจขององค์กร

 

บทเรียนการดำเนินงาน

บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จํากัด (มหาชน) เป็นองค์กรหนึ่งที่ประสบความสําร็จ ในการสร้างองค์กรแห่ง ความสุขตามแนวทาง Happy Workplace ซึ่งได้รับคัดเลือกจากสํานักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้เป็นศูนย์เรียนรู้องค์กรแห่งความสุขประจำภาคใต้ เป็นองค์กรที่มีความโดดเด่นในเรื่องการบริหารคนที่มีความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติและศาสนาให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข โดยใช้กิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเครื่องมือสำคัญในการร้อยรัดมัดใจคนในองค์กร รวมทั้งสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันในรูปแบบครอบครัว ส่งเสริมวัฒนธรรมของการให้ การแบ่งปัน ทั้งแก่คนภายในองค์กรและชุมชนภายนอกองค์กร ถือว่าได้ว่าเป็นแบบอย่างการสร้างความมั่นคงทางธุรกิจที่น่าประทับใจอีกหนึ่งองค์กร

 

š š š š š š š

Copyright © 2019. All rights reserved.